แครอต อาหารฆ่ามะเร็งที่เยี่ยมจริง ๆ

แนะนำอาหารอร่อย@Kanchanaburi

มากกว่าขุนเขาและเงาน้ำ...กาญจนบุรี
หากได้ไปเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรี ดินแดนแห่งพลอยสีน้ำเงิน(ไพลิน) น้ำตกสวย ท่องเที่ยวเดินป่า ล่องแก่ง ล่องแพ มีครบหมดค่ะ ไม่มีอยู่อย่างเดียวคือทะเลค่ะ
อาหารที่นี่ก็อร่อยไม่แพ้ที่ไหน ๆ ลองไปทานดูนะคะ เช่นที่ ครัวท้องถิ่น  www.ครัวท้องถิ่น.com ที่นี้จะมีอาหารฝรั่งและอาหารไทย โดยเชฟที่เป็นเจ้าของร้านทำเองนะคะ สั่งสมฝีมือจากเครือโรงแรมใหญ่มากมายมาเปิดร้านเอง ค่ะ อย่าลืมสั่งแกงพื้นบ้านมาชิมด้วยนะคะ แกงส้มหน่อไม้ดองปลาคัง โอ! สุดยอดค่ะ


หรือถ้าเป็นในตัวอำเภอเมือง ลองแวะทานที่ร้าน Seenam smoothies & food ตั้งอยู่ตรงปากซอยธนาคารกรุงศรีฯ ไปไม่ถูกสอบถามเส้นทางได้่ค่ะ 081 9433651
ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำผลไม้ปั่น ค่ะ
โดยเฉพาะสตอร์เบอร์รี่+Blue berry ปั่นใส่โยเกิตร์ อร่อยมากค่ะ หรือจะเป็นนมสดปั่นก็อร่อยค่ะ 

ถ้าอาหารแนะนำ เป็นข้าวผัดพริกแกงปลาอินทรีย์ อร่อยเด็ดค่ะ 
แกงป่าไก่ สุดยอดค่ะ รสชาดแกงป่าแท้เมืองกาญจน์จริง ๆค่ะ
เรื่องราคาไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ราคาชิวชิวนะคะ อิ่มท้อง สบายกระเป๋า และอร่อยครบค่ะ 
อ้อ มีที่จอดรถสบายค่ะ


แล้วเจอกันที่ Kanchanaburi นะคะ

ทราบมั้ย มะเร็งคืออะำไร?

ปกติ ร่างกายเราจะมีการสร้างเซลล์ใหม่อยู่ตลอด และมีโอกาสที่จะสร้างเซลล์ที่ไม่สมบูรณ์หรือเซลล์ที่ผิดปกติอยู่ตลอด แต่ร่างกายก็มีวิธีกำจัดเซลล์เหล่านี้ออกได้
แต่หากเซลล์ที่ผิดปกติเหล่านี้เล็ดลอดออกจากกระบวนการทำลาย มันก็จะขยายตัวและพัฒนาตนเองจนกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ หากผิดปกติในชั้นของ DNA มันจะสามารถแบ่งตัวเองได้อย่างรวดเร็วในอัตราการแบ่งที่สูงกว่าเซลล์ปกติทั่วไป เืนื่องจากร่างการไม่สามารถควบคุมมันได้
เมื่อแบ่งตัวถึงระดับที่มาก จะทำให้เลือดส่งไปเลี้ยงไม่เพียงพอก็เกิดเซลล์ตาย เกิดการเน่าเสีย มีเชื้อโรคและเกิดความเจ็บปวด แต่การแบ่งตัวก็ยังคงอยู่
ดังนั้นวงจรของมะเร็ง จะมีการแบ่งตัวอยู่ตลอดเวลา และจะมีเซลล์ตายอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน

นี่เป็นเรื่องราวของมะเร็งที่เราทุกคนควรตระหนัก และควรใส่ใจดูแลสุขภาพของตนเองก่อนจะสายไปค่ะ

ไม่อ้วนเอาเท่าไร? น้ำผลไม้สูตรหุ่นเพรียวงาม

เพลงนี้เป็นเพลงที่น่ารักนะคะ ไม่อยากอ้วนจัดให้ค่ะ สูตรหุ่นเพรียวงาม
สูตรนี้รับรองค่ะใคร ๆทานแล้วก็ติดใจทุกคนเพราะทั้งอร่อย และ ได้ประโยชน์จริง ๆ ค่ะ

ผลไม้ที่ต้องเตรียม  มะนาว  ส้ม  สับปะรด  แตงโม นำมาคั้นด้วยเครื่องแยกกาก เสร็จแล้วดื่มทันทีค่ะ

แนะนำสูตร ล้างสารพิษ

วันนี้มีสูตรการล้างสารพิษ ออกจากร่ายกายมาฝากกันค่ะ คงปฎิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้เราต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ไม่น่าพิศมัยเอาซะเลยค่ะ อาหารการกินก็ไม่เหมือนกับสมัยก่อนที่ค่อนข้างจะมีความปลอดภัยสูง ทำให้ปัจจุบันอัตราส่วนของการเกิดโรคเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่อย่าพึ่งกังวลไปค่ะ ลองทำน้ำผลไม้ตามสูตรนี้ ช่วยได้เยอะเลยค่ะ เพราะพลังมหัศจรรย์ของผลไม้ที่มีเอนไซน์ที่มีประโยชน์มหาศาล ช่วยเราได้ค่ะ เริ่มกันเลยนะคะ
ผลไม้ที่ต้องเตรียม มี 
บีทรูท 1 หัว  แอปเปิ้ล 2 ผล แครอท 2 ผล เซลลารี่(คึ่นไช่ฝรั่ง)  ประมาณ 5นิ้ว (ถ้าใครชอบก็ใส่มากได้ค่ะ เรื่องปริมาณของผลไม้ไม่ซีเรียสค่ะ แล้วแต่ความชอบนะคะ ขอให้ใส่ให้ครบค่ะ                    

นำผลไม้ทั้งหมดแช่เย็นเจี๊ยบเลยนะคะ  เพื่อรสชาดที่ดี และทำให้เรารับประทานได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะท่านที่ไม่ชอบทานผักค่ะ  
นำผลไม้ทั้งหมดคั้นด้วยเครื่องคั้นแยกกาก แล้วรับประทานทันที (ไม่ต้องเติมอะไรเพิ่มเติมนอกจากนี้แล้วนะคะ หวานธรรมชาติอยู่แล้วค่ะ)


 

บีทรูท อุดมไปด้วยวิตามินเอ และวิตามินบีรวม สารสีแดงในหัว คือ เบทานิน เป็นกรดอะมิโน มีสรรพคุณช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกและมะเร็ง ช่วยทำให้เลือดลมดี และการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น

แอปเปิ้ล  ราชาแห่งผลไม้ ( King of the fruit ) อุดมไปด้วยเกลือแร่และวิตามินมากมาย ช่วยบำรุงความงามทั้งผิว ผมและเล็บให้มีสุขภาพดี ในแอปเปิ้ลมีสารอาหาร ชื่อว่า เพกติน ช่วยกระตุ้นให้ลำไส้ใหญ่มีการบีบตัวมาก  ร่างกายจึงขจัดของเสียและสารพิษออกจากร่างกายได้เร็ว ป้องกันสารก่อมะเร็งที่ลำไส้


แครอท มีวิตามินเอมาก ช่วยบำรุงสายตา มีสารเบต้าแคโรทีนทำหน้าที่เป็นสารแอนติออกซิแดนท์ ป้องกันมะเร็ง และยังช่วยตับขับสารพิษออกจากร่างกาย

เซลเลอรี อุดมไปด้วยโซเดียมที่มากถึง 136มิลลิกรัม  ช่วยลดอาการแพ้ที่ผิวหนังได้ ช่วยให้สภาวะกรด ด่างในเลือดสมดุล

 ดื่มน้ำผักผลไม้ทุกวัน ชะลอความแก่นะคะ 

แนะนำสูตรผลไม้กำจัดความเครียด

หากมีความเครียดเกิดขึ้นไม่ส่งผลดีต่อร่างกายเลยค่ะ ดังนั้นควรหาวิธีบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติ ลองนำสูตรนี้ไปลองทำดูนะคะ ได้ผลดีจริง ๆค่ะ

ประกอบด้วย บีทรูท 1 หัว  ส้ม 5 ผล แครอท 3 หัว นำไปแช่เย็น(เพื่อรดชาดที่ดี รับประทานง่ายขึ้น) นำไปคั้นด้วยเครื่องแยกกาก จะได้น้ำผลไม้คั้นสด ให้ดื่มทันทีเพื่อประโยชน์สูงสุดค่ะ         

บีทรูท มีวิตามิน เอ และวิตามินบีรวม และมีสารสีแดงในหัว คือ เบทานิน (Betanin) เป็นกรดอะมิโนที่มีสรรพคุณยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกและมะเร็ง  ช่วยทำให้เลือดลมดี และการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ค่ะ

 

ส้ม มีวิตามินเอ มากถึง 4,000หน่วยสากล และวิตามินซี บี 1 บี2 และเกลือแร่ชนิดต่าง ๆ ช่วยป้องกันหวัด และลดโคเลสเตอรอลในเลือด ทำให้ระบบย่อยอาหารในร่างกายเป็นปกติ

แครอท มีวิตามินเอ มากถึง 7,930หน่วยสากล ช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี มีสารเบต้าแคโรทีน ทำหน้าที่เป็นแอนติออกซิแดนท์ ป้องกันมะเร็งปอด มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งกระเพาะและลำไส้ และช่วยให้ตับขับสารพิษออกจากร่างกาย

เห็นมั้ยคะ การดูแลสุขภาพเมื่อเกิดความเครียด ไม่ยากเลยค่ะ ที่สำคัญทำจิตใจให้ผ่องใส คิดบวกเข้าไว้ค่ะ รับรองมีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาหานะคะ





fruit ผลไม้กับคีโมกับมะเร็งและการดำรงชีวิต ( ดีมาก ๆ)

 You are What you Eat? 

หลังจากหลายปีที่พูดกันว่าการทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะ ลอง และใช้ในการกำจัดโรคมะเร็ง ในที่สุดโรงพยาบาลจอห์น ฮอพกินส์ก็เริ่มแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆอีก 
ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์ 

1. ทุกๆคนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย เซลมะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐาน จนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล(1,000,000,000 เซล เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาแล้ว มันหมายถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลมะเร็งได้เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่มากพอ จนถึงระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น

2. เซลมะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง 6 ถึงมากกว่า 10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง

3. เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ เซลมะเร็งจะถูกทำลายและป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก

4. เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็ง มันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยว 

กับโภชนาการ ซึ่งอาจเกิดจากยีน สิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต

5. เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหารรวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น

6. การทำคีโมคือการให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลมะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลที่ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูก ทำลายระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ และเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลาย เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด ฯลฯ 
8. การบำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตามถ้าทำไปนานๆพบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลเนื้องอก

9. เมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโมหรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกันอาจปรับตัวเข้ากันได้หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง ดังนั้นคนๆนั้นจึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิดและทำให้โรคมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น

10. การทำคีโมและการฉายรังสีอาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกลาย พันธุ์ ดื้อยา และยากต่อการทำลาย การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย

11. วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็ง คือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว 

อะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลมะเร็ง 

a. น้ำตาลคืออาหารของมะเร็ง การตัดน้ำตาลคือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให้กับเซลมะเร็ง สารทดแทนน้ำตาลอย่างเช่น "" นิวตร้าสวีต "" "" อีควล "" "" สปูนฟูล "" ฯลฯ ล้วนทำมาจากสารให้ความหวาน ซึ่งเป็นอันตราย สารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่าคือน้ำผึ้งมานูคา (จากนิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อย แต่ในปริมาณน้อยๆเท่านั้น เกลือสำเร็จรูปก็ใช้สารเคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้ "" แบรก อมิโน "" หรือเกลือทะเลแทน

b. นมเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็งจะได้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก การใช้นมถั่วเหลืองชนิดไม่หวานแทนนม จะทำให้เซลมะเร็งไม่ ได้รับอาหาร

c. เซลมะเร็งเติบโตได้ดี ในภาวะแดล้อมที่เป็นกรด อาหารจำพวกเนื้อจะสร้างสภาวะกรดขึ้น ดังนั้นจึงควรหันไปรับประทานปลาจะดีที่สุด รองลงไปคือรับประทานไก่แทนเนื้อและหมู ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อ ฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์ และเชื้อปรสิตบางประเภทตกค้างอยู่ ซึ่งล้วนเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง

d. อาหารที่ประกอบด้วยผักสด 80% และน้ำผลไม้ พืชจำพวกหัว เมล็ด ถั่วเปลือกแข็ง และผลไม้จำนวนเล็กน้อย จะช่วยทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นด่าง อาหารอีก20% อาจได้มาจากการทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่ว น้ำผักสดจะให้เอ็นไซม์ซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายและซึมทราบสู่ระดับเซลภายใน 1 นาที เพื่อบำรุงร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลที่ดี เพื่อให้ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลที่ดี ให้พยายามดื่มน้ำผักสด ( ผักส่วนใหญ่รวมทั้งถั่วที่มีหน่อหรือต้นอ่อน) และรับประทานผักสดดิบ2-3 ครั้งต่อวัน เอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ140 องศา F ( ประมาณ 4 องศา C)

e. ให้หลีกเลี่ยงกาแฟ น้ำชา และช๊อ กโกแลต ซึ่งมีคาเฟอีนสูง ชาเขียวถือเป็นทางเลือกที่ดีและมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง น้ำดื่มให้เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์ หรือที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซินและโลหะหนักในน้ำประปา น้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรด ให้หลีกเลี่ยง

12. โปรตีนจากเนื้อจะย่อยยาก และต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อย เนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารจะเกิดการบูดเน่าและมีความเป็นพิษมากขึ้น

13. ผนังของเซลมะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงดหรือการรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอมาใช้โจมตีกำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็ง และช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น

14. สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ( สารIP6 [inositol hexaphosphate หรือ phyti acid],สาร Flor-essence, สาร Essiac, สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์ , วิตามิน , เกลือแร่ , EFAs ฯลฯ) เพื่อช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น สารอาหารอื่นๆเช่น วิตามินอี เป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการตายลงของเซล หรือ กำหนดระยะเวลาการตายของเซล ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการกำจัดเซลที่ถูกทำลาย ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป 

15. มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์กับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ การป้องกันเชิงรุกและการคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดจากการทำสงครามกับมะเร็ง.... ความโกรธ การไม่รู้จักให้อภัย และความขมขื่นใจ จะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมีสภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้น ให้เรียนรู้ที่จะมีความรักและจิตวิญญาณแห่งการให้อภัย เรียนรู้ที่จะผ่อนคลายและมีความสุขกับชีวิต

16. เซลมะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีอ๊อกซิเจนเป็นจำนวนมาก การออกกำลังกายทุกวัน และการหายใจลึกๆจะช่วยให้ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้นลงไปจนระดับเซล การบำบัดด้วยอ๊อกซิเจนถือเป็นวิธีการอีกอย่างที่ใช้ในการทำลายเซลมะเร็ง

ขอขอบคุณแหล่งที่ของข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต

ทักทายกันก่อนค่ะ

บล๊อคนี้เกิดจากแรงบันดาลใจที่อยากจะให้ทุก ๆ คน หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพ ด้วยวิถีธรรมชาติบำบัด ซึ่งปัจจุบันไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากวุ่นวายอีกต่อไป

การที่เราทำงานหนัก สะสมความเครียด นั่นหมายความว่าร่างกายต้องพร้อมรับทุกสถานะการณ์ที่จะเกิดขึ้น แล้ววันนี้เราใส่ใจสุขภาพตัวเราดีพอหรือไม่

บางท่านอาจจะลองถามตัวเองในใจว่า ในหนึ่งวันร่างกายเราได้รับสารอาหารเพียงพอแล้วหรือไม่ โดยเฉพาะ เกลือแร่ และวิตามินต่าง ๆ ที่เป็นสารอาหารที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดต่อร่างกายของเรา

สุขภาพดี ทำให้บุคลิกเราดีตามมาด้วยหน้าตาที่สดชื่น ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง ดูอ่อนเยาว์ และที่สำคัญ ไม่อ้วนด้วยค่ะ